วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Change of my friends


Change of my friends

สำหรับ Blog นี้ เราอยากพูดถึงเรื่องของ "ความสุข" และ "ความโชคดี" ที่มี "เพื่อน" ที่ดีอยู่เคียงข้าง

ถึงแม้ตอนนี้เวลามันจะเดินไปเรื่อย ๆ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของแต่ละคน 
ถึงแม้ตอนนี้ทุกอย่างอาจจะไม่เหมือนที่เคยเป็น 
แต่ ...... 
ตอนนี้ทุกคนยังคงอยู่ในความทรงจำของเราเหมือนเดิม

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยคับว่า เราเองเป็นคนที่ค่อนข้างจะจริงจัง ละเอียด และแคร์เพื่อนเอาสะมากๆ เนื่องจากความสุขในชีวิตที่ผ่านมานั้น เราใช้เวลาอยู่กับพวกเค้าสะส่วนใหญ่ นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่นึกถึงพ่อแม่เรา แต่ในระยะห่างระหว่างวัย ประกอบกับเวลาและความรับผิดชอบในการทำหน้าที่ ทำงาน ของแต่ละคนจึงทำให้มีเวลาอยู่ร่วมกันไม่มากเท่าไรนัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่มีให้กันและกันจืดจางลงไป ซึ่งเราสามารถแยกแยะได้ว่า เวลาไหนควรอยู่ร่วมกับใคร ตามหลักความถูกต้องและเหตุผลที่เหมาะสมเสมอ ....

และเพื่อนที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้นั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่มากจากโรงเรียนเดียวกันตอนมัธยมได้ร่วมกันทำงานในถานะคณะกรรมการนักเรียนของโรงเรียน ซึ่งจริงๆ แล้วก็ต่างรู้จักกันมาบ้างพอสมควร แต่จะมาสนิทกันจริง ๆ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันจริง ๆ ก็ตอนเป็นคณะกรรมการนักเรียนนี่แหละคับ
ต่อไปนี้เราขอแนะนำเพื่อนคนแรกของเราก่อนเลย 

เค้าคนนี้มีชื่อว่า นางสาว อนงค์  วงค์ศิริ



เป็นเพื่อนที่มีนิสัยค่อนข้างที่จะสุขุม ขี้อาย แต่เป็นคนที่เก่งและฉลาด มองคนออก ไม่ว่าข้อสอบจะเป็นยังไง อนงค์ สามารถทำได้หมด ไม่ใช่เฉพาะกับการเรียน แต่ปัญหาชีวิต อนงค์คือคนที่เพื่อนเข้าหามากที่สุด ไว้ใจได้มากที่สุด และตอนนี้ อนงค์ก็ติดพยาบาล เป็นพยาบาลประจำกลุ่มของเราไปแล้ว 

คนต่อมาคือ นาย กติกา  พานิชพงษ์ 



สำหรับเพื่อนคนนี้มีชื่อเล่นว่า ทีม ทีมเป็นคนที่สุขุม เงียบ ๆ ดูเย็นชา เป็นที่ต้องตาของสาวๆมากมายยิ่ง และแถมยังเรียนเก่งเอาสะมาก ๆ ยังไม่พอ เรื่องดนตรี ขอให้บอกเพื่อนเราคนนี้โดยเฉพาะกีต้า เล่นได้เทพมาก ๆ สำหรับเพื่อนคนนี้หากไม่รู้จักหรือสนิทกันจริง ๆ จะไม่มีทางสัมผัสหรือเข้าถึงความคิดความอ่าน และ การแสดงออกไปจนถึงเหตุผลของเขาได้เลย แต่ถ้ารู้จักจริงๆ  ละก็คุณจะรักเขามากๆ ปัจจุ ทีม สอบตรงติด IT ที่ ลาดกระบังตอนนี้ก็คงใกล้จะจบแล้วล่ะคับ :)

คนต่อมาคือ นาย กฤษขจร  พัฒนะพิชัย 


เค้าคนนี้มีชื่อเล่นว่า เต้ เป็นคนที่ค่อนข้างจะจริงจังมาก หากสนใจอะไรสักอย่างจะจมปลักอยู่แบบนั้น และแน่นอนเสน่ของเพื่อนคนนี้ก็ไม่แพ้เพื่อนทีมเลยคับ มีแต่สาวๆ มารุมตอมเต็มไปหมด แถมเรียนเก่งสุด ๆ เป็นตัวแทนของโรงเรียนสารพัด เรียกว่าเก่งมันสะทุกอย่าง ยกเว้น วาดภาพ นี่คือสิ่งเดียวที่มันไม่สามารถทำได้คับ ตอนนี้เต้ เป็นนิสิตเกษตร คณะ วิทยาศาสตร์ จุลชีวะวิทยา 555+ ธรรมดาสะที่ไหน 

คนต่อมามีชื่อว่า นางสาว พรจรัส  ตะเพียนทอง


สำหรับสาวติสแตกคนนี้มีชื่อเล่นว่า หน่อย เป็นแม่บ้านแม่เรือนเอาสะมาก เป็นคนจู่จี้จุกจิก ขี้บ่นไปสะทุกเรื่อง แต่เรื่องรัก เค้าไม่เคยยอมแพ้ใคร และติสแตกเป็นชีวิตจิตใจเลย แต่ เรื่องเรียนก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน เรียนดีมาก ตอนนี้ เรียน วิศวะกรรมศาสตร์ เซรามิก คับ

คนต่อมามีชื่อว่า วัชระพงษ์  ผึ่งไทย


สำหรับเืพื่อนคนนี้มีนามว่าปุ้ย เป็นคนอาร์ตสุด ๆ อินดี้สุด ๆ ชีวิตมันจะอยู่คนเดียวสะส่วนใหญ่ โลกของมันอยู่แต่กับเสียงเพลง เสียงดนรี แต่ในมุมลับของเค้านั้นค่อนข้างดราม่ามาก ๆ สมัยมอปลาย การเรียนไม่ค่อยจะดี มีแต่เรื่องชกต่อยอยู่เป็นประจำ แต่ปัจจุบันนั้นกลับกลายเป็นคนละคน เรียนดีมาก มาก มีเหตุมีผล รับฟังและเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนได้ทุกเรื่อง เป็นคนสนุกสนานเฮฮา แคร์คนที่แคร์มันเสมอ มีความฝันควบคู่ไปกับการทำให้มันเป็นจริง เรื่องดนตรีปุ้ยอาจจะเป็นเรื่อง ทีม แต่ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าใครเลย ปัจจุบันเป็น ครูพละไปสะแล้วละคับ :) 

คนต่อไปนี้ค่อนข้างพิเศษสุดเลยก็ว่าได้ เค้ามีชื่อว่า "เจมจิรา เมฆนิกร" 



ถือว่าเป็นพี่สาวไปเลยเพราะว่า อาวุโสที่สุด แต่ถึงแม้ว่าจะอาวุโสขนาดไหน บอกได้คำเดียวว่า หน้าตาเทียบเท่ากับเด็กมัธยมได้เลย ^^ พี่อุ๋มเป็นคนมีเหตุผลที่สุุดแล้ว เก็บอารมณ์ค่อนข้างดีมากแต่เป็นคนใจร้อน ขี้เหงา ขี้อ้อนเป็นที่สุด ร้องเพลงเพราะโครตเลยนะ แถมเรื่องเรียนไม่ต้องพูดถึงเลยคับ เพราะตอนนี้เค้าเป็น พยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดล มาได้ 5 ปีแล้ววววเพราะฉะนั้นใครจะเจ็บจะป่วยอะไร พี่คนนี้จัดการได้หมดเลย รู้ลึกรู้จริง IQ แน่นมากๆ และแน่นอน ต้องเป็นที่รักของทุกๆคนในกลุ่มเลย 


และนี่ก็เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเราคับ ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะได้มีโอกาสเจอกันน้อยลง แต่ทุกคนก็ยังคงมีความรักที่ดีต่อกัน และเราเองก็เชื่อนะคับว่า ทุกๆคนคงจะมีเพื่อน มีคนข้างๆ มีช่วงเวลาแห่งความสุข เช่นเดียวกับเราเหมือนกัน สุดท้ายนี้เราก็ขอฝากไว้ว่า

มีเพื่อนที่ดี ก็รักษาเค้าไว้ อย่าทำอะไรโดยใช้อารมณ์

นะครับ ^^



Change of face


FACE

บทความต่อไปนี้เราจะพูดถึง
เรื่องของศิลปะบนใบหน้า 

สำหรับการแต่งหน้าแล้ว สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนต่างจินตนาการตามความรู้สึกแรกที่ได้ยินคือ แต่งให้สวย หล่อ ดูดี แต่ในความจริงของจินตนาการส่วนที่นอกเหนือจากการแต่งหน้าให้สวย หล่อ แล้ว มันจะหมายรวมไปถึง การแต่งหน้า ในลักษณะ ที่หลากหลายตามอาชีพ ลักษณะงาน หรือแม้แต่การบ่งบอกความเป็น สไตล์ของตัวคุณเอง
จากประสบการณ์ที่เคยได้มีโอกาสเรียนทางด้านการแสดงมา ในหลักสูตรการเรียนนั้นมีวิชาการแต่งหน้าเพื่อการแสดงรวมอยู่ด้วย และแน่นอน เราได้มีโอกาสได้ลงมือปฎิบัติจริง โดยเริ่มจากการเลือกซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ ซึ่งบอกกันตรงนี้เลยว่า ...... ง่อยยยทานนนคับ เพราะไม่รู้เรื่องอะไรสักกะอย่างเดียว ว่าอะไรคือแปลง อันไรคือลิป อะไรคือ อายไลเนอร์ มึนตึบ แต่ก็ได้เพื่อนที่เรียนด้วยกัน ช่วยแนะนำได้บ้าง  ><" มีน้ำใจโครตตตต สำหรับการแต่งหน้าในคอนเซปแรกเริ่มที่เราได้มีโอกาสเรียนก็คือ 

การแต่งหน้างิ้ว 

ซึ่งขั้นตอนการแต่งนั้นก็ไม่ยากมากเท่าไร หากมีพื้นฐานในการไล่ระดับของสีเป็นคับ เรามาดูหน้าตาของงิ้วมือสมัครเล่นกันดีกว่าาาาาาาาา  อัยย๊ะ (ช่วงอ้วนที่สุดใน 4 โลก )



ดูตลกใช่ไม๊ล่ะ แต่ถ้าจะให้แต่งแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง บอกเลย เราสามารถทำได้อย่างชิล ๆ 

และคลาสต่อไปคือ

การแต่งหน้าแบบสโมคกี้อาย


คลาสต่อมานี้เป็นคลาสที่ตื่นเต้นมากเพราะโจทย์คือ "สิ่งมีชีวิต" และมันก็คือ 

การแต่งหน้าเลียนแบบสิ่งมีชีวิต


ผีเสื้อกับ ปลา Blue tang


ปลาปั๊กเป้า


ดาวทะเล กับ ผีเสื้อ





แมงมุม



ผีเสื้อกับทานตะวัน


ผีเสื้อกับชบา

และคลาสต่อมาคือ

การแต่งหน้าผี







แอบกระซิบว่า เคยแต่งหน้านี้แคสงานในวัน ฮาโลวีน ปรากฎว่า ผ่านเฉยเลยคับท่านแถมภายในวันเดียวต้องแต่งหน้าให้กับ นางแบบ 1 คน พริ๊ตตี้ 2 คน และ นักแสดงอีก 1 คน ขออวดหน่อย 5555 ฟลุ๊คมากกก

V
V
V




และคลาสสุดท้ายเป็นคลาสที่เราได้มีโอกาสสร้างสรรค์งานจากจินตนาการล้วนๆ ในหัวข้อ

BODYPAINT

ซึ่งถือเป็นคลาสใหญ่สุดเพราะมีการจัดแสดงเดินแบบโชว์กันเป็นจริงเป็นจังตามคอนเซปของแต่ละชั้นปี งานนี้บอกเลย หินเอาสะมาก ๆ แต่ ..... มันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถเราเลยยยย 5555+

เริ่มจากการเสนอแบบ ที่ 1 



ไม่ผ่าน

แบบที่ 2

ผ่าน


จากนั้นก็หา นายแบบ นางแบบ 






เมื่อได้แล้วก็จัดการเพ๊นนนนตามแบบเลยยยยยยย 









และการเรียนของเราก็จบสิ้นลงหลังจากนั้น ถึงแม้เราจะตัดสินใจยุติการเรียนการแสดงไปแล้ว แต่ต้องขอขอบคุณอาจารย์ และ รุ่นพี่การแสดงทุกคนที่ถ่ายถอดความรู้ และ ประสบการณ์ในการทำงานจริง ๆ ที่มีส่วนช่วยให้เราสามารถพัฒนาความสามารถรวมถึงบุคคลิกภาพให้กับตัวเอง แต่ถึงยังไงเลือดของเราก็ยังผสานกันอยู่ จากการหันหลังให้กับการแสดงมา แต่ปัจจุบันเพื่อนทุกคน พี่น้องทุกคนต่างยัง รัก และ เคารพกันไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อย ย ย ย นะคับบ ^^"

และไม่กี่วันนี้ที่ผ่านมานี้ เพื่อนๆของเราก็ไปถึงฝันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอแสดงความยินดีไปด้วยสะเลย รุ่น S M I L E / SSRU . PA 



และนี่ก็เป็นประสบการณ์จากการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราอีกสิ่งหนึ่ง .... ที่ไม่อาจลืมได้


















วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

change of perfume





PERFUME FOR ME




องค์ประกอบหลักในการแต่งตัวและช่วยสร้างบุคลิกให้กับเราได้ สำหรับเราคงไม่ใช่เพียงเสื้อผ้า หน้าตา หรือ ทรงผม เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของหลายๆ คนที่สร้างความเป็นตัวตนให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งนั้น คงเป็นกลิ่นความหอมของกลิ่นที่มาจากกาย ซึ่งเปรียบเสมือนตัวช่วยในการสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเราเองได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 

สำหรับตัวเราเองนั้น มีโอกาสได้เริ่มใช้น้ำหอมจริงๆจังๆก็ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย โดยบล๊อคนี้เราจะเขียนเกี่ยวกับการเฟ๊นหาน้ำหอมในกลิ่นเฉพาะตนของตัวเราเอง ซึ่งกว่็่าจะเจอก็เล่นสะปวดหัวอยู่เหมือนกัน
และสำหรับตัวแรกนี้เป็นตัวเมนของการตกอยู่ในห้วงของคลับการใช้น้ำหอมของเราเอง ซึ่งได้มาแบบ

F R E E 

จากเพื่อนคนนึงซึ่งหิ้วมาฝากจากต่างประเทศ
ตัวนี้เล้ย ย ย ย 



DAVIDOFF Champion For Men

มีดีไซน์ที่แปลกตา คือจะมีลักษณะคล้ายๆ กับดัมเบล เปิดออกมาจะเป็นกลิ่นส้ม ๆ เปรี้ยวๆ จากนั้นจะเป็นหอมนุ่มคล้ายๆไม้โอ๊ค เป็นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต เหมาะกับทุกโอกาส แต่ส่วนตัวแล้วเราว่า .... ไม่ค่อยโดนเท่าไรคับ 

ตัวต่อมานี้ เราได้มาอย่างไม่ตั้งใจคือไปเดินเล่นบนห้างแล้วมีป้ายติด sale 50% ไอเรานี่ไม่เท่าไร คุณเพื่อนนี่ตาลุกวาวเลย เลยเทสกลิ่นดู ปรากฎว่าถูกใจอยู่ 2 กลิ่นเลยโดนบังคับซื้อคนละกลิ่นเนื่องจากเงินมันไม่พอจึงขอให้เราซื้อไว้ด้วยความ เสียดายยย ~~"





 Diesel Fuel for Life 



กลิ่นก็ออกหวานหน่อยๆๆ  แต่ไม่หวานเลี่ยนครับ  ขวดนี้คิดว่าใส่แล้วตัวเองดูดีขึ้นนิดหน่อย  ฮ่าๆๆ  ความทน: ไม่ต้องพูดถึง ได้กลิ่นตลอดครับ ส่วนตัวชอบ design คับดูมี สไตล์ดี

ตัวต่อไปนี้เราได้กลิ่นจากเพื่อนแล้วมันฟรุ๊งเข้ามาเตะที่จมูกจึงถามมันดู และก็พบว่า มันคือ CK BE ซึ่งเราก็ไม่ได้รีรอเลย จัดมา 1 ขวด




 Calvin Klein CK Be


กลิ่นออกหวาน ๆ นิดหน่อย สดชื่น ในสไตล์ผู้ชาย แต่ไม่ได้หวานแบบผู้หญิง ปลายกลิ่นให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย สบาย ๆ ไม่ฉุนและไม่แรงมาก แต่กลิ่นติดไม่ค่อยทนเท่าไร ต้องคอยฉีดระหว่างวัน ส่วน Design ดูพื้น ๆ สุขุมเรียบ ๆ ดี คับ ตัวนี้ใช้หมดเร็วมากกกก  


ตัวต่อมาเราหาอ่านากรีวิวตามเว็ปต่าง ๆ ปรากฏว่าเป็นกลิ่นที่คนทั่วไปให้ความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเลยลองดู คับ






Davidoff Cool water for men

เป็นกลิ่นที่ใช้ง่าย ใช้ได้หลายโอกาส เป็นกลิ่นแนวเย็นสดชื่น เหมือนอาบน้ำมาใหม่ ๆ เหมาะกับอากาศบ้านเราที่เป็นเมืองร้อน แต่กลิ่นก็มีความจริงจังในระดับนึงทำให้สามารถใส่ไปทำงานได้



และเมื่อได้มาเจอกับตัวนี้ ถึงกับต้องหยุดผงะ และจบลงกับตัวนี้เลยคับ เพราะชอบมากกกกกกกกก ราคาก็แพงแสน ==" แต่ใช้ได้นานนนน เพราะจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาบ้างนี้เอง จึงพอทราบวิธีใช้ วิธีเก็บ ทำให้ประหยัดลงมาหน่อย



น้ำหอมแบ่งขาย Bleu de Chanel

BLEU DE CHANEL

โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ลงตัวรู้สึกอบอุ่น สดชื่น  ให้ความรู้สึกสดใส ออกแบบด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม เท่ เก๋ มีสไตล์ ด้วยขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมสีเทาแบบหินฉนวน กับเสียงคลิ๊กเมื่อเปิดฝาขวด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและลงตัว หลายคนทักและชอบเช่นเเดียวกันกับที่เราชอบ 

และสำหรับสุดท้ายนี้เราก็มีทริกสำหรับคอน้ำหอมมือใหม่ที่น่าจะช่วยให้การใช้น้ำหอมของคุณ ง่ายขึ้นคับ

การเลือกใช้น้ำหอมอย่างเหมาะสม เราควรเลือกกลิ่นหอมที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองนับว่าดีที่สุด และนอกจากนั้น การที่เลือกลักษณะของกลิ่นหอมยังจำเป็นที่จะต้องรู้จักประเภทของน้ำหอมที่ แบ่งตามความเข้มข้นของน้ำหอมด้วย น้ำหอมนั้นมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำมันหอมที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ ( แอลกอฮอล์ทำหน้าที่ช่วยกระจายความหอมไปในการระเหยนั่นเอง ) ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่แตกต่างกันไป น้ำหอมจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอมได้ออกเป็นดังนี้

  โคโลญจน์ หรือ Eau de Cologne เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 3-5%

 ทอยเล็ตต์ หรือ Eau de Toilette เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 4-8%

 เพอร์ฟูม หรือ Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 15-18% ซึ่งจะมีกลิ่นติดทนนานที่สุด
 ลักษณะของขวดหรือภาชนะบรรจุน้ำมันหอมนั้น ยังมีผลต่อความคงทนในการเก็บความหอมให้ยาวนาน ในขณะที่ขวดแบบเปิดฝาจะเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นาน 9 เดือน ขวบแบบสเปรย์ที่ฝาปิดแน่นหนากว่านั้นเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นานนับปี เป็นต้น
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอม อยู่ที่การทดลองกลิ่นหอมของน้ำหอมแต่ละกลิ่น อย่า ลืมว่าการเลือกน้ำหอมที่ดีที่สุดอยู่ที่กลิ่นที่เข้ากับบุคลิกของผู้ใส่ และเนื่องจากกลิ่นหอมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบรอบๆ ตัวหลายอย่างด้วยกัน ก่อนไปเลือกซื้อน้ำหอม ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หรือออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยมากจนเกินไป ซึ่งการกระทำเหล่านั้นจะส่งผลต่อการรับรู้กลิ่น และทำให้การรับรู้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมนั้นผิดเพี้ยนไป 
  และนอกจากนี้ เรายังไม่ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในเวลาที่เพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วยไม่สบาย หรือ เพิ่งจะสูบบุหรี่มา เพราะการกระทำเช่นนี้อาจจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นน้ำหอม ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราสัมผัสมีโอกาสผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าบริเวณที่เหมาะสำหรับทดลองน้ำหอม คือบริเวณข้อมือซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกแล้ว ยังนับเป็นจุดชีพจรที่ทำให้เราได้กลิ่นหอมของน้ำหอมอย่างแท้จริงอีกด้วย บริเวณจุดชีพจรเต้นนั้นเป็นบริเวณของร่างกายที่ มีอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมระเหย อธิบายได้ง่ายๆ ว่าทำให้เกิดกลิ่นหอมได้ดีนั่นเอง อีกอย่างที่ควรทำคือทดลองน้ำหอมต่างกลิ่นกันคนละจุดด้วยการใช้ข้อมือคนละ ข้างกัน และไล่บริเวณแขนลงไป และควรทิ้งระยะเวลาเอาไว้สัก 20 นาทีหรือถึง 1 ชั่วโมง แล้วจากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกซื้ออีกครั้งหนึ่งจะดีกว่า
 ข้อควรระวังในการใช้น้ำหอม น่าจะอยู่ที่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ รวมทั้งเครื่องประดับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ เข็มกลัด เข็มขัด เป็นต้น เนื่องจากแอลกอฮอล์และเคมีบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบของน้ำหอม ( อย่างเช่น น้ำมัน เป็นต้น ) จะมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด ที่จริงแล้วลักษณะในการใส่น้ำหอมเองยังมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด อาทิ น้ำมันที่มีผลกับผ้าซาติน หรือแม้แต่ผ้าฝ้ายแบบฟอก การฉีดน้ำหอมใกล้กับเสื้อผ้ามากเกินไป ทำให้แอลกอฮอล์ปริมาณเข้มข้น ติดอยู่กับเสื้อผ้ามาก
ดังนั้น การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อ ไม่ให้น้ำหอมทิ้งจุดด่างหรือรอยเปียกของน้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า ทางที่ดีที่สุดอย่าฉีดโดยตรงลงบนเสื้อผ้าจะดีกว่า ส่วนเครื่องประดับที่มักจะเกิดปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในน้ำหอมนั้น มักจะเป็นโลหะผสมพวกโรเดียมไม่เพียงเท่านั้นเครื่องเพชรพลอย อัญมณีหรือแม้แต่ไข่มุกก็ตามนั้นมีส่วนหมองคล้ำจากการได้รับละอองสเปรย์ที่ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วยส่วนที่จะทิ้งรอยตกค้าง อันไม่ปรารถนาเอาไว้ ให้ กับเครื่องแต่งกายของเรา คือสีที่เป็นอีกส่วนผสมที่ประกอบอยู่ในน้ำหอมนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแต่แต้มลงบนส่วนของร่างกาย โดยระวังเครื่องประดับต่างๆ ด้วย แน่นอนว่ากลิ่นหอมของน้ำหอม สร้างเสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับเราได้ แต่ในทางกลับกันบางครั้งมันก็อาจทำให้เกิดเป็นกลิ่นฉุนได้หากแตะหรือฉีดใน ปริมาณที่มากเกินพอดี

  เคล็ดลับในการแต้มน้ำหอมสำหรับทุกสถานการณ์ …

  ให้ป้ายหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจร โดยมากจะเป็นบริเวณข้อมือหรือลำคอ และบางครั้งบริเวณข้อพับที่แขนหรือขาพับก็เป็นที่นิยม ในขณะที่การแตะน้ำหอมบริเวณหลังใบหูนั้นความหอมของน้ำหอมจะไม่ติดอยู่ทนนาน เนื่องจากแอลกอฮอล์ระเหยได้รวดเร็วนั่นเอง


  การถูข้อมือที่แต้มน้ำหอม 2 ข้างเข้าด้วยกัน ไม่ได้ช่วยให้ความหอมนั้นทั่วถึง แต่ที่จริงแล้วจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมอ่อนลง


 การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่าน จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่วดี
  พยายามอย่าใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอม ก่อนหน้าที่จะใช้น้ำหอมเนื่องจากกลิ่นจะตีกัน
  ใช้น้ำหอมมากหน่อยหากคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากผิวมันมีน้ำมันช่วยคงกลิ่นให้ติดอยู่ยาวนาน
  ในขณะเดียวกัน หาก ใส่น้ำหอมแล้วต้องอยู่ในที่อากาศเย็นให้เลือกน้ำหอมที่มี กลิ่นแรงกว่าปกติ เนื่องจากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะลดกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ลดน้อยลงกว่าที่ เป็น การฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จะช่วยทำให้กลิ่นหอมติดทนนานกว่าปกติ

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://sites.google.com/site/perfumeforyous/ 



Change of my pet


สัว์ลี้ยงฉั

เชื่อว่าทุกคนต่างมีเพื่อนมากมาย ต่างคนต่างหน้าตาต่างนิสัย แต่จะมีสักกี่คน  ที่จะอยู่กับคุณไปจนลมหายใจสุดท้ายของพวกเค้าจริงๆ 

คงมีไม่มากนักที่คนเราจะรักและดูแลเพื่อนตัวนั้นของพวกคุณจริงๆในวันที่เค้าเติบโต และก็มีไม่น้อยเช่นกัน ที่ทุกๆวันจะได้นั่งเล่นพูดคุยกับเค้าโดยที่เค้าไม่สามารถตอบคุณได้เลยสักคำ แต่กลับแสดงอริยาบถเพื่อสื่อสารกับคุณออกมาได้อย่างจริงใจและบริสุทธิ์ 


หลายครั้งนักที่รู้สึกเหนื่อย เบื่อ หรือเครียดเพื่อนของคุณเหล่านี้กลับทำให้คุณสามารถลืมความทุกข์ใจไปได้อย่าง ปลิดทิ้ง

สำหรับเพื่อนของเราในวันนี้นั้นจะมีอะไรบ้างมาดูกันเล้ย .....



ศรีหมอกและแฟน
เป็นกระต่ายคู่แรกของบ้าน สำหรับตัวนี้ ทุกๆวันมันจะคอยมารออยู่ที่ประตูหลังบ้านเพื่อรออาหารอันโปรดปรานของมัน ซึ่งหากเรายังอดฉงนไม่ได้ว่า นี่คือช้างปลอมตัวไปหรือเปล่า >,<" กินเก่งชะมัดและตอนนี้มันก็มีเพื่อนที่มีนิสัยเรียบร้อย ศรีบ้านศรีเรือนเอาสะมากๆ แต่ .... เพื่อนของมันกลับกระโดดและวิ่งไล่ศรีหมอกไม่เคยทันสักที และเพื่อนของเรากับศรีหมอกตัวต่อไปนี้คือ แม่ลูกขนปุยสี่ขานามว่า หลินปิง และ ปังปอน ^,^



และตัวต่อมา เราเรียกมันว่าแพนด้า ตัวนี้เห็นใครก็จะวิ่งเข้าหา แม้แต่แม่หมาก็ไม่เว้นนน 


และตอนนี้แพนด้าก็โตเป็นสาวแล้วจ้าาาา


โตไปพร้อมๆกับเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างปังปอนลูกหลินปิงเล้ยย ซน ดื้อ แต่ ยังฟัง เพื่อนทุกตัวในบ้านเรา เรียกชื่อแล้วต้องฟังตามคอนเส็บการสอนของพ่อ ที่ไม่ว่าตัวไหนก็ต้องเจอคือ .... ถูกกัดปาก ฟังดูโหดร้าย แต่ไม่ได้รุนแรงอะไรมากนัก แต่ที่สุดของเพื่อนๆสี่ขาทุกตัว กลับต้องเหลียวหลังหันกลับมาเวลาถูกเรียกชื่อ ..,.,, ปังปอนมานี่



ใส่ชุดนี้สวยเชียวนะนู๋



สุดท้ายนี้อยากฝากเพื่อนๆไว้ ว่าวันนี้เรามีเค้าอยู่ ก็จงอยู่กับเค้าดูแลเค้า เพราะวันนึงเมื่อเค้าจากเราไปเราจะขาดเพื่อนที่ดี และจริงใจที่สุดของเราไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกเลย


เค้าคือเพื่อนของเรา









วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Change of my room



MY ROOM




เชื่อว่าหลายคน ต้องมีห้องนอนเป็นของตัวเอง อาจสวยหรู หรือ คับแคบ แต่มันก็เป็น
สถานที่เดียวที่ให้อารมณ์ส่วนตัวมากที่สุด


แต่ มันก็มีอีกไม่น้อยเช่นกัน ที่ยังไม่เคยมีห้องนอนเป็นของตัวเองเลย  1 ในนี้ก็คือ เราเอง

ครอบครัวของเรามี 4 คน แต่มีเพียงแค่ 2 ห้องนอนเท่านั้นด้วยเหตุนี้เราจึงต้อง Good dream กับน้องทุกคืน แต่เมื่อต้องมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ห้องนั้นก็กลายเป็นห้องของน้องไปโดยปริยาย กลับไปอีกทีนึง ห้องนอนที่เรียบๆ กลายเป็นห้องนอนที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งเต็มห้อง สีห้องถูกทาด้วยสีฟ้าโล่ เตียงนอนสีน้ำเงินโคมไฟติดห้องดูสร้างบรรยากาศแสนอบอุ่น แต่ .....

ก็เป็นพี่นี่โน๊ะ นอนได้ทุกที่แหละหน่า ม้านั่งไม้สักกลางบ้านกลายเป็นที่พำนักพักนอนยามกลับมาบ้านในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ พัดลมตัวใหญ่เป่าผ้าห่มกระพรือ พรึบ ๆ ๆ ๆ ๆ ยุงตัวน้อยน่ารัก บินหยอกล้ออยู่
ข้างหู มันเป็นความรู้สึกที่บอกได้เลยว่า หากระยะทางระหว่าง กาญจนบุรี - กรุงเทพ ใกล้เพียง 4 - 5 Km เราจะเดินกลับไปนอนที่หอพักอย่างไม่ลังเลเลย (- - )" 

จนมีโอกาสได้พูดคุยกับ แม่อันเป็นที่รักยิ่ง เรื่องห้องนอนแต่ด้วยเหตุผลของแม่ คือ "ทำไว้ก็ไม่ได้อยู่ แล้วจะทำไปทำไม  ส่วนใหญ่ก็อยู่หอพักอยู่แล้วนิ" ครับแม่ !!!
สัปดาห์นี้กลับมาถึงบ้านพร้อมกับได้พบกับห้องใหม่ที่ ไม่ใหม่เอาสะเลย แม่เก็บของออกจากห้องเก็บของออกแล้วนำเตียงเก่าๆ พร้อมทีวีและพัดลมไปตั้งไว้  ตามนี้เลยย ...

v
v
v
ผ่านมา 1 เดือน เป็นช่วงของการปิดเทอมของมหาวิทยาลัย ปี 2 เรานั่งหยิบกระดาษขึ้นมาสเก็ตภาพห้องนอนของเราในจินตนาการ เช้าวันรุ่งขึ้นเสียงแม่เคาะประตูห้อง และพูดขึ้นมาว่า ... "ตื่นได้แล้วสายแล้ว  เดี๋ยวช่างจะมาวัดห้อง"
YE
แม่กำลังจะทำห้องให้เราแหละ 
ไปดู พัฒนาการ ปลุกปั้นจากภาพวาด มาเป็นห้องนอนในจินตนาการของเรากันดีกว่าคับ 

LET'S GO ..... 


แบบที่เรา design ไว้



เริ่มจากเทพื้นปูกระเบื้อง



เริ่มเก็บลายละเอียดลอกสติ๊กเกอร์ปิดช่องลม



มีเพื่อน ๆ มาร่วมด้วยช่วยกันด้วย


เก็บลายละเอียดสี ติดตั้งไฟหลุม  มีไอตัวป่วนอังเปาวิ่งมาก่อกวนตลอดเวลาเลย >,<"


เพื่อนเราตั้งใจมากๆ


ใกล้แล้วๆ 


ทาสีและสลักตัวอักษรชื่อกลุ่ม


และแล้วก็เสร็จจนได้ 


เรามาดูวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกัน



และแล้วมันก็เสร็จภายใน 1 สัปดาห์เท่านั้น
"ด้วยงบประมาณทั้ง สิ้น 20000 บาทโดยประมาณ"



NEW  BEDROOM