วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

change of perfume





PERFUME FOR ME




องค์ประกอบหลักในการแต่งตัวและช่วยสร้างบุคลิกให้กับเราได้ สำหรับเราคงไม่ใช่เพียงเสื้อผ้า หน้าตา หรือ ทรงผม เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของหลายๆ คนที่สร้างความเป็นตัวตนให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งนั้น คงเป็นกลิ่นความหอมของกลิ่นที่มาจากกาย ซึ่งเปรียบเสมือนตัวช่วยในการสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเราเองได้ไม่น้อยเลยทีเดียว 

สำหรับตัวเราเองนั้น มีโอกาสได้เริ่มใช้น้ำหอมจริงๆจังๆก็ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย โดยบล๊อคนี้เราจะเขียนเกี่ยวกับการเฟ๊นหาน้ำหอมในกลิ่นเฉพาะตนของตัวเราเอง ซึ่งกว่็่าจะเจอก็เล่นสะปวดหัวอยู่เหมือนกัน
และสำหรับตัวแรกนี้เป็นตัวเมนของการตกอยู่ในห้วงของคลับการใช้น้ำหอมของเราเอง ซึ่งได้มาแบบ

F R E E 

จากเพื่อนคนนึงซึ่งหิ้วมาฝากจากต่างประเทศ
ตัวนี้เล้ย ย ย ย 



DAVIDOFF Champion For Men

มีดีไซน์ที่แปลกตา คือจะมีลักษณะคล้ายๆ กับดัมเบล เปิดออกมาจะเป็นกลิ่นส้ม ๆ เปรี้ยวๆ จากนั้นจะเป็นหอมนุ่มคล้ายๆไม้โอ๊ค เป็นน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกสปอร์ต เหมาะกับทุกโอกาส แต่ส่วนตัวแล้วเราว่า .... ไม่ค่อยโดนเท่าไรคับ 

ตัวต่อมานี้ เราได้มาอย่างไม่ตั้งใจคือไปเดินเล่นบนห้างแล้วมีป้ายติด sale 50% ไอเรานี่ไม่เท่าไร คุณเพื่อนนี่ตาลุกวาวเลย เลยเทสกลิ่นดู ปรากฎว่าถูกใจอยู่ 2 กลิ่นเลยโดนบังคับซื้อคนละกลิ่นเนื่องจากเงินมันไม่พอจึงขอให้เราซื้อไว้ด้วยความ เสียดายยย ~~"





 Diesel Fuel for Life 



กลิ่นก็ออกหวานหน่อยๆๆ  แต่ไม่หวานเลี่ยนครับ  ขวดนี้คิดว่าใส่แล้วตัวเองดูดีขึ้นนิดหน่อย  ฮ่าๆๆ  ความทน: ไม่ต้องพูดถึง ได้กลิ่นตลอดครับ ส่วนตัวชอบ design คับดูมี สไตล์ดี

ตัวต่อไปนี้เราได้กลิ่นจากเพื่อนแล้วมันฟรุ๊งเข้ามาเตะที่จมูกจึงถามมันดู และก็พบว่า มันคือ CK BE ซึ่งเราก็ไม่ได้รีรอเลย จัดมา 1 ขวด




 Calvin Klein CK Be


กลิ่นออกหวาน ๆ นิดหน่อย สดชื่น ในสไตล์ผู้ชาย แต่ไม่ได้หวานแบบผู้หญิง ปลายกลิ่นให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย สบาย ๆ ไม่ฉุนและไม่แรงมาก แต่กลิ่นติดไม่ค่อยทนเท่าไร ต้องคอยฉีดระหว่างวัน ส่วน Design ดูพื้น ๆ สุขุมเรียบ ๆ ดี คับ ตัวนี้ใช้หมดเร็วมากกกก  


ตัวต่อมาเราหาอ่านากรีวิวตามเว็ปต่าง ๆ ปรากฏว่าเป็นกลิ่นที่คนทั่วไปให้ความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเลยลองดู คับ






Davidoff Cool water for men

เป็นกลิ่นที่ใช้ง่าย ใช้ได้หลายโอกาส เป็นกลิ่นแนวเย็นสดชื่น เหมือนอาบน้ำมาใหม่ ๆ เหมาะกับอากาศบ้านเราที่เป็นเมืองร้อน แต่กลิ่นก็มีความจริงจังในระดับนึงทำให้สามารถใส่ไปทำงานได้



และเมื่อได้มาเจอกับตัวนี้ ถึงกับต้องหยุดผงะ และจบลงกับตัวนี้เลยคับ เพราะชอบมากกกกกกกกก ราคาก็แพงแสน ==" แต่ใช้ได้นานนนน เพราะจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาบ้างนี้เอง จึงพอทราบวิธีใช้ วิธีเก็บ ทำให้ประหยัดลงมาหน่อย



น้ำหอมแบ่งขาย Bleu de Chanel

BLEU DE CHANEL

โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ลงตัวรู้สึกอบอุ่น สดชื่น  ให้ความรู้สึกสดใส ออกแบบด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม เท่ เก๋ มีสไตล์ ด้วยขวดแก้วทรงสี่เหลี่ยมสีเทาแบบหินฉนวน กับเสียงคลิ๊กเมื่อเปิดฝาขวด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและลงตัว หลายคนทักและชอบเช่นเเดียวกันกับที่เราชอบ 

และสำหรับสุดท้ายนี้เราก็มีทริกสำหรับคอน้ำหอมมือใหม่ที่น่าจะช่วยให้การใช้น้ำหอมของคุณ ง่ายขึ้นคับ

การเลือกใช้น้ำหอมอย่างเหมาะสม เราควรเลือกกลิ่นหอมที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองนับว่าดีที่สุด และนอกจากนั้น การที่เลือกลักษณะของกลิ่นหอมยังจำเป็นที่จะต้องรู้จักประเภทของน้ำหอมที่ แบ่งตามความเข้มข้นของน้ำหอมด้วย น้ำหอมนั้นมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ น้ำมันหอมที่ถูกทำให้เจือจางลงด้วยแอลกอฮอล์ ( แอลกอฮอล์ทำหน้าที่ช่วยกระจายความหอมไปในการระเหยนั่นเอง ) ในระดับความเข้มข้นของความหอมที่แตกต่างกันไป น้ำหอมจึงถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยระดับความเข้มข้นของกลิ่นหอมได้ออกเป็นดังนี้

  โคโลญจน์ หรือ Eau de Cologne เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 3-5%

 ทอยเล็ตต์ หรือ Eau de Toilette เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 4-8%

 เพอร์ฟูม หรือ Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 15-18% ซึ่งจะมีกลิ่นติดทนนานที่สุด
 ลักษณะของขวดหรือภาชนะบรรจุน้ำมันหอมนั้น ยังมีผลต่อความคงทนในการเก็บความหอมให้ยาวนาน ในขณะที่ขวดแบบเปิดฝาจะเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นาน 9 เดือน ขวบแบบสเปรย์ที่ฝาปิดแน่นหนากว่านั้นเก็บรักษาน้ำหอมไว้ได้นานนับปี เป็นต้น
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอม อยู่ที่การทดลองกลิ่นหอมของน้ำหอมแต่ละกลิ่น อย่า ลืมว่าการเลือกน้ำหอมที่ดีที่สุดอยู่ที่กลิ่นที่เข้ากับบุคลิกของผู้ใส่ และเนื่องจากกลิ่นหอมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบรอบๆ ตัวหลายอย่างด้วยกัน ก่อนไปเลือกซื้อน้ำหอม ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด หรือออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยมากจนเกินไป ซึ่งการกระทำเหล่านั้นจะส่งผลต่อการรับรู้กลิ่น และทำให้การรับรู้กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมนั้นผิดเพี้ยนไป 
  และนอกจากนี้ เรายังไม่ควรไปเลือกซื้อน้ำหอมในเวลาที่เพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วยไม่สบาย หรือ เพิ่งจะสูบบุหรี่มา เพราะการกระทำเช่นนี้อาจจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นน้ำหอม ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เราสัมผัสมีโอกาสผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าบริเวณที่เหมาะสำหรับทดลองน้ำหอม คือบริเวณข้อมือซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกแล้ว ยังนับเป็นจุดชีพจรที่ทำให้เราได้กลิ่นหอมของน้ำหอมอย่างแท้จริงอีกด้วย บริเวณจุดชีพจรเต้นนั้นเป็นบริเวณของร่างกายที่ มีอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำหอมระเหย อธิบายได้ง่ายๆ ว่าทำให้เกิดกลิ่นหอมได้ดีนั่นเอง อีกอย่างที่ควรทำคือทดลองน้ำหอมต่างกลิ่นกันคนละจุดด้วยการใช้ข้อมือคนละ ข้างกัน และไล่บริเวณแขนลงไป และควรทิ้งระยะเวลาเอาไว้สัก 20 นาทีหรือถึง 1 ชั่วโมง แล้วจากนั้นค่อยตัดสินใจเลือกซื้ออีกครั้งหนึ่งจะดีกว่า
 ข้อควรระวังในการใช้น้ำหอม น่าจะอยู่ที่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ รวมทั้งเครื่องประดับทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ เข็มกลัด เข็มขัด เป็นต้น เนื่องจากแอลกอฮอล์และเคมีบางอย่างที่เป็นองค์ประกอบของน้ำหอม ( อย่างเช่น น้ำมัน เป็นต้น ) จะมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด ที่จริงแล้วลักษณะในการใส่น้ำหอมเองยังมีผลต่อวัตถุดิบบางชนิด อาทิ น้ำมันที่มีผลกับผ้าซาติน หรือแม้แต่ผ้าฝ้ายแบบฟอก การฉีดน้ำหอมใกล้กับเสื้อผ้ามากเกินไป ทำให้แอลกอฮอล์ปริมาณเข้มข้น ติดอยู่กับเสื้อผ้ามาก
ดังนั้น การฉีดน้ำหอมควรทำห่างจากตัวอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพื่อ ไม่ให้น้ำหอมทิ้งจุดด่างหรือรอยเปียกของน้ำมันเอาไว้บนเสื้อผ้า ทางที่ดีที่สุดอย่าฉีดโดยตรงลงบนเสื้อผ้าจะดีกว่า ส่วนเครื่องประดับที่มักจะเกิดปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ที่อยู่ในน้ำหอมนั้น มักจะเป็นโลหะผสมพวกโรเดียมไม่เพียงเท่านั้นเครื่องเพชรพลอย อัญมณีหรือแม้แต่ไข่มุกก็ตามนั้นมีส่วนหมองคล้ำจากการได้รับละอองสเปรย์ที่ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วยส่วนที่จะทิ้งรอยตกค้าง อันไม่ปรารถนาเอาไว้ ให้ กับเครื่องแต่งกายของเรา คือสีที่เป็นอีกส่วนผสมที่ประกอบอยู่ในน้ำหอมนั่นเอง ดังนั้น จึงไม่ควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าแต่แต้มลงบนส่วนของร่างกาย โดยระวังเครื่องประดับต่างๆ ด้วย แน่นอนว่ากลิ่นหอมของน้ำหอม สร้างเสน่ห์ชวนหลงใหลให้กับเราได้ แต่ในทางกลับกันบางครั้งมันก็อาจทำให้เกิดเป็นกลิ่นฉุนได้หากแตะหรือฉีดใน ปริมาณที่มากเกินพอดี

  เคล็ดลับในการแต้มน้ำหอมสำหรับทุกสถานการณ์ …

  ให้ป้ายหรือฉีดน้ำหอมในบริเวณที่เป็นจุดชีพจร โดยมากจะเป็นบริเวณข้อมือหรือลำคอ และบางครั้งบริเวณข้อพับที่แขนหรือขาพับก็เป็นที่นิยม ในขณะที่การแตะน้ำหอมบริเวณหลังใบหูนั้นความหอมของน้ำหอมจะไม่ติดอยู่ทนนาน เนื่องจากแอลกอฮอล์ระเหยได้รวดเร็วนั่นเอง


  การถูข้อมือที่แต้มน้ำหอม 2 ข้างเข้าด้วยกัน ไม่ได้ช่วยให้ความหอมนั้นทั่วถึง แต่ที่จริงแล้วจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมอ่อนลง


 การฉีดสเปรย์น้ำหอมในอากาศแล้วใช้วิธีเดินผ่าน จะช่วยให้กลิ่นหอมกระจายติดตัวเราได้ทั่วดี
  พยายามอย่าใช้โลชั่นที่มีกลิ่นหอม ก่อนหน้าที่จะใช้น้ำหอมเนื่องจากกลิ่นจะตีกัน
  ใช้น้ำหอมมากหน่อยหากคุณเป็นคนผิวแห้ง เนื่องจากผิวมันมีน้ำมันช่วยคงกลิ่นให้ติดอยู่ยาวนาน
  ในขณะเดียวกัน หาก ใส่น้ำหอมแล้วต้องอยู่ในที่อากาศเย็นให้เลือกน้ำหอมที่มี กลิ่นแรงกว่าปกติ เนื่องจากความเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะลดกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ลดน้อยลงกว่าที่ เป็น การฉีดน้ำหอมทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จะช่วยทำให้กลิ่นหอมติดทนนานกว่าปกติ

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://sites.google.com/site/perfumeforyous/ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น